วันที่ประกาศผลรางวัล 01 สิงหาคม 2567

วิธีการขึ้นเงินรางวัล

ผู้ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถขึ้นเงินรางวัลได้ภายใน 2 ปี นับจากวันที่ออกรางวัล หากพ้นกำหนดจะไม่สามารถขึ้นเงินรางวัลได้ โปรดเก็บรักษาสลากของท่านให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ฉีกขาด ชำรุด หรือมีรอยขีดเขียนใดๆ

การขึ้นเงินรางวัลตามมูลค่า:

• รางวัลไม่เกิน 20,000 บาท: สามารถขึ้นเงินได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลทั่วประเทศ หรือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• รางวัลเกิน 20,000 – 100,000 บาท: สามารถขึ้นเงินได้ที่ตัวแทนจำหน่ายสลากที่ได้รับอนุญาต ธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ หรือที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
• รางวัลเกิน 100,000 บาทขึ้นไป: สามารถขึ้นเงินได้ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือธนาคารที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงด้วย

เพื่อความปลอดภัย กรณีถูกรางวัลมูลค่าสูง แนะนำให้ถ่ายรูปสลากเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจสอบผลรางวัลจากเว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวง

เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

เพื่อความถูกต้องแม่นยำในการตรวจสอบผลรางวัล กรุณาตรวจสอบผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ข้อมูลผลการออกรางวัลบนเว็บไซต์ทางการจะได้รับการปรับปรุงทันทีหลังการออกรางวัล

เว็บไซต์ทางการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล: www.glo.or.th

บนเว็บไซต์ทางการ ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกรางวัลย้อนหลัง วิธีการขึ้นเงินรางวัล และข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ จากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นอกจากนี้ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ตรวจหวย” ที่เป็นทางการเพื่อความสะดวกในการตรวจผลรางวัลได้อีกด้วย

การจัดสรรเงินรายได้จากสลากกินแบ่งรัฐบาล

รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกนำไปจัดสรรเพื่อประโยชน์สาธารณะและสังคมไทย โดยเงินรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการแล้ว จะถูกนำส่งเข้าเป็นรายได้แผ่นดินและจัดสรรให้กับโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ

การแบ่งสัดส่วนรายได้:

• ร้อยละ 60 นำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
• ร้อยละ 20 จัดสรรเป็นเงินรางวัล
• ร้อยละ 12 เป็นค่าบริหารจัดการและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
• ร้อยละ 8 เป็นส่วนลดให้กับผู้จำหน่ายสลาก

ตัวอย่างโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุน:

• โครงการพัฒนาโรงพยาบาลและสาธารณสุข: รายได้ส่วนหนึ่งถูกจัดสรรเพื่อสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และปรับปรุงสถานพยาบาลทั่วประเทศ เช่น โครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล และการสนับสนุนการพัฒนาศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง
• โครงการพัฒนาการศึกษา: มีการจัดตั้งกองทุนสำหรับทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ทั่วประเทศ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษาในพื้นที่ห่างไกล เช่น การสร้างอาคารเรียน และจัดหาอุปกรณ์การเรียนการสอน
• โครงการสาธารณประโยชน์: สนับสนุนการพัฒนาชุมชน การช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เช่น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำในชุมชน และการก่อสร้างสิ่งสาธารณประโยชน์อื่นๆ